ขนมหวานมงคลที่ใช้ในงานแต่งงานมีหลากหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งมักจะใช้ในขบวนขันหมากซึ่งโดยมากมักจะจัดอยู่ 9 ชนิดด้วยกัน ส่วนคำว่า 9 นั้นหมายถึงความเจริญก้าวหน้า การจัดพานขนมขันหมากนิยมจัดกันเป็นพานคู่ สำหรับขนมที่นิยมใช้ในขบวนขันหมากมีดังนี้ 1 ขนมกงหรือขนมกงเกวียน ซึ่งหมายถึงกงเกวียนที่หมุนไปข้างหน้า โดยความหมายที่ต้องการสื่อถึงงานแต่งงานก็คือ ต้องการให้คู่บ่าวสาวรักและครองคู่อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า 2 ขนมหวานตระกูลทอง เช่น ขนมทองหยิบ ทองหยอด ทองพลู ทองโปร่ง ทองม้วน ทองเอก นั้นถือว่าเป็นขนมมงคล เชื่อกันว่าจะมีเงินทองไม่ขาดมือ และยังหมายถึงความร่ำรวย 3 ขนมเม็ดขนุน ที่ใช้ในงานมงคลต่างๆนั้นมีความหมายว่า ทำการสิ่งใดก็หมายถึงคนเกื้อหนุน ค้ำจุน มีคนคอยช่วยเหลือไม่มีวันตกต่ำ 4 ขนมข้าวเหนียวแก้ว มีความหมายว่า ชีวิตก็จะมีความเหนียวแน่น มั่นคงเป็นปึกแผ่น 5 ขนมฝอยทอง หมายถึงให้คู่บ่าวสาวรักกันยืนยาวและครองคู่อยู่ด้วยกันตลอดไป 6 ขนมจ่ามงกุฎ เป็นขนมมงคลที่ใช้อวยพรในงานแต่งงาน ซึ่งหมายถึงความเจริญก้าวหน้าเต็มไปด้วย ยศถาบรรดาศักดิ์ 7 ขนมถ้วยฟู หรือ ขนมปุยฝ้าย มีความหมายว่า ความรุ่งเรืองความเฟื่องฟูของชีวิต 8 ขนมชั้น หมายถึง การเลื่อนขั้น เลื่อนชั้น เลื่อนตำแหน่ง 9 ขนมเสน่ห์จันทร์ มีความหมายว่า ความมีเสน่ห์ มีผู้คนรักใคร่ นอกจากความเป็นสิริมงคลในงานแต่งงานแล้ว ขนมที่ใช้ในงานแต่งงานยังหมายถึง…
Author Archives: order 3minutesfood
การแต่งงานนั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในพิธีการที่สำคัญมากๆ สำหรับหลายๆ คนในการเริ่มต้นชีวิตคู่ ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นครั้งเดียวในชีวิต ทำให้ทุกคนที่จัดงานแต่งงานล้วนอยากให้งานออกมาดีที่สุด ซึ่งตามความนิยมแล้วนั้นรูปแบบงานแต่งงานจะมีทั้งพิธีเช้า และพิธีเย็น หรืออาจจะมีพิธีเดียวก็ได้ตามแต่ความต้องการ ในบทความนี้จะมาแนะนำถึงเคล็ดลับของงานแต่งพิธีเช้าเพื่อที่จะได้เตรียมตัวอย่างถูกต้อง 1. กำหนดวันที่จะจัดงาน สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อจะจัดงานแต่งงานคือการกำหนดวัน / เวลาที่จะจัดงานนั่นเอง โดยการกำหนดวัน / เวลาที่จะจัดงานแต่งงานนั้นขึ้นอยู่กับความสะดวก และความเหมาะสมของทั้งเจ้าบ่าว / เจ้าสาว อาจจะเป็นวันที่มีการดูฤกษ์ยามมาแล้วว่าเป็นวันมงคลตามความเชื่อ หรืออาจจะเป็นวัน / เวลาที่ทางเจ้าบ่าว / เจ้าสาว รวมไปถึงครอบครัวดูแล้วว่ามีความสะดวกมากที่สุดก็ได้ 2. หาสถานที่จัดงาน สำหรับสถานที่ในการจัดงานแต่งพิธีเช้านั้นก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเจ้าภาพ รวมไปถึงความเหมาะสมในเรื่องการจัดงาน และจำนวนแขกที่จะมาร่วมงานเป็นหลัก อาจจะเป็นการจัดงานที่บ้าน ที่โรงแรม หรือสถานที่ให้บริการจัดงานแต่งงาน โดยการเลือกสถานที่จัดงานแต่งพิธีเช้าถ้าไม่ได้จัดในโรงแรมควรจะเป็นสถานที่ที่มีความร่มรื่น สถานที่กว้างขวาง โปร่งสบาย เพราะว่าในตอนเช้านั้นจะมีแสงแดด ถ้าสถานที่มีความคับแคบ หรือมีร่มเงาไม่เพียงพอก็จะทำให้ผู้ที่มาร่วมงานต้องเจอกับอากาศร้อนนั่นเอง ซึ่งการจัดงานที่บ้าน หรือสถานที่จัดงานแต่งงานมักจะเจอกับปัญหาเรื่องแสงแดดอยู่เสมอ 3. เรียนเชิญผู้ที่จะมาร่วมงาน เมื่อกำหนดวัน / เวลา สถานที่ได้แล้ว สิ่งต่อไปที่คู่บ่าว / สาวต้องทำคือการบอกกล่าวญาติมิตรเพื่อให้มาร่วมงานในวัน / เวลา ซึ่งการเรียนเชิญผู้ที่จะมาร่วมงานนั้นจะนิยมทำด้วยการแจกการ์ดเชิญ…
1. วางแผนครอบครัว การวางแผนครอบครัวไม่ใช่การวางแผนเรื่องการคุมกำเนิดอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการวางเป้าหมายให้กับครอบครัวเพื่อให้มีความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเงิน ที่อยู่อาศัย อาชีพ การมีบุตร หรือแม้แต่การเว้นช่วงที่เหมาะสมสำหรับการมีบุตรอีกคน สิ่งเหล่านี้ควรเกิดขึ้นจากการวางแผนของคนสองคนที่กำลังจะเป็นครอบครัวเดียวกัน 2. ทำความคุ้นเคยกับครอบครัวของอีกฝ่าย การแต่งงานอยู่ที่การตัดสินใจของคนสองคนก็จริง แต่อาจไม่ใช่ทั้งหมด เป็นที่รู้กันดีกว่าการแต่งงานคือการที่สองครอบครัวต้องมาเกี่ยวพันเชื่อมโยงหรือกลายเป็นญาติกันไปโดยปริยาย เพราะฉะนั้นจะยึดเอาแค่คนสองคนเป็นหลักนั้นไม่ได้ ยังต้องคำนึงถึงครอบครัวของอีกฝ่ายด้วย เมื่อทำความรู้จักครอบครัวของอีกฝ่ายแล้ว ก็เข้าสู่การทำความคุ้นเคยซึ่งกันและกัน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่ไม่อาจมองข้าม 3. เรียนรู้กฎหมายสมรส สินส่วนตัว สินสมรส การแต่งงานคือ พิธีการที่บอกกล่าวให้รับทราบโดยทั่วกันว่าคนสองคนกำลังจะใช้ชีวิตร่วมกัน ดังนั้นการแต่งงานจึงเป็นเหมือนการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ เรียกว่าเป็นทางพฤตินัย แต่ในทางกฎหมายแล้วการแต่งงานจะมีผลก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนสมรสเป็นที่เรียบร้อย เรียกว่าเป็นทางนิตินัย คือมีข้อกฎหมายรองรับที่ชัดเจนนั่นเอง ดังนั้นการก่อนแต่งงาน ว่าที่บ่าวสาวจึงควรพูดคุยถึงเรื่องนี้กันให้ชัดเจน 4. ตรวจร่างกาย สุขภาพร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ แม้จะเห็นความแข็งแรงทางร่างกายกันดีอยู่แล้ว แต่เมื่อจะแต่งงานก็ควรมั่นใจในเรื่องสุขภาพของกันและกันเสียก่อน เพราะเรื่องนี้ถือว่าละเอียดอ่อนทีเดียว ซึ่งนอกจากจะตรวจว่าแต่ละคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์หรือไม่ ยังควรเช็คความพร้อมของการมีบุตรเพิ่มเติมด้วย ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะยังไม่ได้มีแผนการที่จะมีบุตรทันที แต่ก็ควรตรวจเช็คไว้เสียแต่เนิ่น ๆ ว่าพร้อมด้วยกันทั้งคู่หรือไม่ 5. เช็คภาระหนี้สินของแต่ละคน เรื่องเงินเป็นเรื่องที่เงียบไม่ได้เลยสำหรับชีวิตคู่ เรียกว่าเป็นเรื่องที่ต้องพูดให้ชัด เคลียร์ให้จบตั้งแต่ก่อนแต่งงานเลยทีเดียว เพราะใช่ว่าทุกคู่จะมีสถานะทางการเงินที่พร้อมสมบูรณ์ บางคู่อาจต้องพึ่งพิงซึ่งกันและกัน บางคู่อาจต้องช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องจำเพาะของแต่ละคู่ จะเอาการใช้ชีวิต การใช้เงินของคู่อื่นมาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้เด็ดขาด ทั้งหมดทั้งมวลต้องขึ้นอยู่กับคุณทั้งคู่ประเมินรายรับ-รายจ่าย และหาทิศทางการใช้เงิน ทั้ง 5 เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คนกำลังจะแต่งงานควรทำให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะวางแผนเรื่องพิธีแต่งงาน…
สถานที่รับจัดงานแต่งงานครบวงจรคืออะไร กล่าวถึง สถานที่รับจัดงานแต่งงานครบวงจร คือเป็นสถานที่ที่หนึ่ง ที่ดำเนินพิธีการมงคลสมรสอย่างถูกต้องตามประเพณีแบบขนานไทยแท้ และผสมผสานกับแบบสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ดำเนินพิธีแบบไทย แต่การเลี้ยงรับรองแขกแบบเรียบง่าย ให้แขกในงานมีส่วนร่วม คำว่าสถานที่รับจัดงานแต่งงานครบวงจร จะต้องมีองค์ประกอบหลักดังนี้1. สถานที่จัดงานจะต้องมีเพียงพอในการต้อนรับแขก2. มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครอบคลุม เช่น สถานที่จอดรถ ห้องน้ำที่สะอาด เดินทางได้สะดวก มุมถ่ายรูป มุมพักผ่อน ฯลฯ3. มีเจ้าหน้าที่ทีมงาน ที่เป็นมืออาชีพอย่างเชี่ยวชาญ ให้สมกับเป็นสถานที่รับจัดงานแต่งงานครบวงจร4. แยกพื้นที่โซนการจัดงานชัดเจน5. อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้6. อาหาร และเครื่องดื่มที่เพียงพอในงาน7. ตกแต่งสถานที่อย่างสวยงาม8. ไฟ แสง สี เสียง ที่พร้อมอยู่ตลอด9. ช่วงเวลา กำหนดการที่ชัดเจน และตรงเวลา สถานที่รับจัดงานแต่งงานครบวงจรจะต้องมีพื้นที่แบบใดบ้าง ? การดำเนินพิธีมงคลสมรสจะต้องแบ่งโซนพื้นที่อย่างชัดเจน เพื่อให้แขกได้ทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างไม่แออัดจนเกินไป เช่น มุมถ่ายรูปที่จัดเป็นฉากแกลอรี่มีหลายมุม เวทีประกอบพิธีการแบ่งออกเป็นโซน เพื่อให้ทีมงานจัดเตรียมอุปกรณ์ในพิธีถัดไปได้อย่างสะดวก พื้นที่ที่ทำพิธีการที่สำคัญในงานมงคลสมรส ทางสถานที่รับจัดงานแต่งงานครบวงจรจะต้องมีดังนี้1. พิธีเจริญพุทธมนต์ จะต้องเป็นเวทีใหญ่ยกสูงในระดับนึง สำหรับรองรับพระสงฆ์ 9 รูป เพื่อให้แขกสามารถนั่งฟังพระที่เก้าอี้ได้2. พิธีแห่ขันหมากอย่างเป็นทางการ จะต้องมีจุดเริ่มต้นขบวน ในระยะทางที่ไม่ไกลมากที่อยู่นอกอาคาร…
- 1
- 2